โรงเรียนบ้านมะขามเอน

หมู่ที่ 7 บ้านมะขามเอน ตำบล ท่าเคย อำเภอ สวนผึ้ง จังหวัด ราชบุรี 70180

Mon - Fri: 9:00 - 17:30

086 1735248

ห้องผีสิง

ห้องผีสิง

ห้องผีสิง

ห้องผีสิง เรื่องราวของสิ่งลี้ลับที่กำลังจะเล่าต่อไปนี้ เรารับฟังมาจากคนงานที่มาทำงานแถวบ้านเรา ก่อนหน้าที่จะย้ายมาอยู่ที่โรงงานแถวบ้านเรานั้น พี่คนนี้เคยอยู่แถว นิคมอุตสาหกรรม แห่งหนึ่งมาก่อนและก็เจอเข้ากับเหตุการณ์หลอนทำให้ต้องย้ายออกมา ก่อนอื่นขอเล่าคร่าวๆก่อนว่าบ้านเราเปิดเป็นร้านขายของชำ

เราจะไปช่วยยายขายของที่ร้านในช่วงวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ ทำให้เจอกับพวกพี่พี่คนงานที่ทำงานอยู่ที่โรงงานแถวนั้น และพี่คนที่เล่าเรื่องราวหลอนนี้ให้เราฟังก็มาซื้อของที่ร้านยายเราบ่อยๆ ทำให้แกชอบมาเล่าเรื่องหลายอย่างให้เราฟัง บางทีก็มาคุยด้วย เราขอเรียกพี่คนนี้ว่าพี่เต้ยนะคะ

เมื่อช่วงปีที่แล้วพี่เต้ยเข้าไปทำงานที่โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งและที่โรงงานนี้ก็มีห้องพักให้ สภาพของห้องค่อนข้างเก่าแต่ก็อยู่ฟรีดีกว่าต้องไปเสียค่าเช่าห้องพัก ที่พักเป็นแบบชั้นเดียวสร้างเรียงกันไปแบ่งเป็นห้องๆ ภายในห้องจะมีหน้าต่างเป็นแบบบานเกร็ดอยู่ทางด้านหลังห้อง

และด้านกำแพงที่ติดกับห้องข้างๆจะมีช่องลมแต่ค่อนข้างสูง ห้องเป็นห้องโล่งๆ ส่วนมากคนงานที่เข้ามาพักก็จะซื้อพัดลมแล้วก็เตียงนอนมากันเอง แต่ส่วนมากมักจะใช้เป็นฟูกปูกับพื้นเพราะค่อนข้างประหยัด พี่เต้ยเองก็ตัวคนเดียวแกเลยนอนที่พักของโรงงาน

วันแรกที่พี่เต้ยเข้าไปพักในห้องนั้นแกเล่าให้ฟังว่ารู้สึกเหมือนเวิ้งว้างมากๆ เหมือนอยู่คนเดียวทั้งที่มีห้องหลายห้อง แต่อาจจะเป็นเพราะว่าห้องเป็นห้องโล่งไม่มีอะไรเลยข้าวของของแกเองก็มีแค่กระเป๋าเสื้อผ้าใบเดียวไม่มีอุปกรณ์เครื่องนอนใดใด พี่เต้ยแค่คิดว่าค่อยๆทยอยซื้อไป แล้วก็เข้าไปรายงานตัวกับทางโรงงานพอช่วงเย็นแกก็ไปหาอะไรกิน แล้วเข้าที่ห้องพักประมาณสองทุ่ม

เพราะยังเหนื่อยกับการเดินทางเลยอยากไปพักเพื่อเริ่มงานเต็มวันในวันพรุ่งนี้ แล้วคืนแรกที่พี่เต้ยไปนอนในห้องก็ได้ยินเหมือนเสียงคนไขกุญแจห้องข้างๆ แล้วก็เป็นเสียงประตูปิดดังมาก ห้องของพี่เต้ยเป็นห้องที่อยูริมสุดด้านในแกคิดว่าคงเป็นคนงานที่กลับมานอนที่ห้องเพราะที่นี่จะมีแต่คนงานที่ทำงานโรงงานเดียวกับพี่เต้ยเท่านั้น

พี่เต้ยไปเริ่มงานวันใหม่และก็แปลกใจเมื่อตอนเปิดประตูมาดูเพราะเหมือนว่าห้องข้างๆมีกุญแจคล้องไว้อย่างแน่นหนามากๆ ทั้งที่พี่เต้ยออกมาค่อนข้างเช้ามากแล้วและยังไม่ได้ยินเสียงใครออกมาจากห้องข้างๆเลย แต่ก็อาจจะเป็นช่วงที่แกอาบน้ำพี่เต้ยก็เลยไม่ได้คิดอะไรมากเดินไปที่โรงงาน พอช่วงเย็นเลิกงานเพื่อนที่ทำงานก็ชวนให้ไปนั่งดื่มกันเป็นการเลี้ยงต้อนรับเพื่อนใหม่ พี่เต้ยก็ไปดื่มพอเป็นพิธีเพราะปกติแกไม่ค่อยเป็นนักดื่มเท่าไหร่ พี่เต้ยกลับเข้ามาที่ห้องพักช่วงเวลาประมาณสี่ทุ่ม

ก็ยังเห็นห้องข้างๆคล้องกุญแจล็อคเอาไว้ แกกะว่าจะทักทายคนห้องข้างๆผูกมิตรกันไว้สักหน่อยพราะต้องอยู่ข้างๆกัน พอเข้าห้องไปได้สักพักพี่เต้ยก็ได้ยินเสียงของประตูห้องข้างปิดดังมากอีกครั้งแกรีบเปิดประตูออกมาดูคิดไว้ว่าจะทักทายคนห้องข้างๆ

แต่พอเปิดออกมาดูกลายเป็นว่ากุญแจยังคล้องอยู่ด้านนอกหมายความว่ายังไม่มีใครกลับเข้ามาแกก็งงนิดๆว่าทำไมเสียงถึงดังมากๆเหมือนอยู่ที่ห้องข้างๆ พอมองไปรอบๆก็ไม่เห็นไฟจากห้องไหนเลย มีแค่ไฟจากฝั่งตรงข้าม

ตอนกำลังจะเข้านอนพี่เต้ยได้ยินเสียงจากห้องข้างๆเหมือนมีคนทะเลาะกันเสียงเหมือนหม้อ จาน ชามต่างๆกระจายกระทบกับพื้นเสียงดังมาก แล้วก็ได้ยินเสียงประตูปิดดังมากแล้วทุกอย่างก็เงียบลง พี่เต้ยเต็มไปด้วยความสงสัยค่อยๆเปิดประตูออกมาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น

แกเล่าว่าพอเปิดประตูออกมาก็ยังเห็นกุญแจคล้องอยู่เหมือนไม่มีการเปิดและไม่มีใครอยู่ในนั้น พี่เต้ยมองเลยไปถึงห้องถัดไปอีกสี่ห้าห้องแต่ไม่มีห้องไหนเปิดไฟเลย พี่เต้ยเข้าห้องไปด้วยความสงสัยและคาใจมาก แต่ไม่เห็นใครอยู่ตรงนั้น

เช้าวันรุ่งขึ้นพี่เต้ยรีบออกมาแต่เช้าและก็ยังเห็นห้องข้างๆคล้องกุญแจด้วยความสงสัยพี่เต้ยมองหาคนแถวนั้นและก็เจอพี่สิงที่อยู่ห้องแรกฝั่งตรงข้ามใกล้กับทางออก พี่เต้ยทักทายพี่สิงแล้วถามว่าห้องข้างๆแกเป็นใครทำไมไม่เคยเจอเลย พี่สิงตกใจที่พี่เต้ยถาม

พี่สิงบอกว่าจะไปเจอได้ยังไงที่ห้องพักโรงงานตอนนี้มีแค่พี่สิงกับพี่เต้ยที่อยู่เท่านั้นคนอื่นๆออกไปเช่าห้องอยู่กันเองหมด บางคนมีครอบครัวมาด้วยก็เลยไปเช่าอยู่ที่อื่น และห้องข้างๆพี่เต้ยไม่ว่าใครก็มาอยู่ไม่ได้ ที่พี่สิงยังอยู่ที่นี่เพราะเสียดายเงินที่ต้องไปเช่าห้องที่อื่น

แต่ก็คิดว่าจะย้ายออกไปเช่าเร็วๆนี้ พี่เต้ยสงสัยว่าเสียงที่ได้ยินมาจากไหนเพราะถ้าจากห้องพี่สิงก็ไม่น่าจะเป็นไปได้อยู่ค่อนข้างห่างกัน พี่สิงบอกว่าพี่เต้ยเจอดีเข้าแล้วเพราะห้องข้างๆพี่เต้ยนั้นเคยมีคนงานฆ่ากันตายแทงกันตรงหน้าห้องและตายคาที่ ไม่ว่าจะเอาพระมาสวดกี่รอบก็ไม่ยอมไป

ใครมาอยู่ก็โดนกวนจะได้ยินเสียงข้าวของกระจุยกระจายและเสียงปิดประตูกระแทกดังๆตลอด เหมือนว่ายังคงมีการต่อสู้กันอยู่และจบลงด้วยการเสียชีวิตของคนงานทั้งสองคน พี่เต้ยได้ยินแบบนั้นก็หลอนมากๆเพราะที่นอนมาสองสามคืนคือได้ยินทุกคน พอรู้เรื่องแบบนี้ก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปนอนเลยขอพีสิงนอนด้วยคืนนี้

เพราะพี่เต้ยเองเป็นคนกลัวผีมากๆ วันรุ่งขึ้นแกขอลาออกแล้วไปหางานใหม่ เถ้าแก่ถามว่ามีอะไรรึเปล่าแกบอกเถ้าแก่ไปตรงๆว่าโดนผีหลอกทุกคืนและพอรู้เรื่องแล้วเลยกลัวอยู่ไมได้จริงๆ เถ้าแก่บอกกับพี่เต้ยว่าเข้าใจเพราะก็ไม่รู้จะทำยังไงดีที่จะแก้ให้ผีคนงานทั้งสองคนที่ฆ่ากันตายออกไปจากห้องและหยุดออกมาหลอกหลอนคนอื่น

หลังจากพี่เต้ยออกมาไม่นานพี่สิงก็ส่งข่าวมาว่าเถ้าแก่สั่งรื้อห้องพักของโรงงานทิ้งเพราะไม่มีคนงานคนไหนมาอยู่ ตัวพี่สิงเองก็ออกมาเช่าห้องใกล้ๆโรงงานเถ้าแก่ก็เลยรื้อทิ้งและปล่อยเป็นที่ว่าง พี่เต้ยบอกว่าตอนนั้นที่เจอแล้วมานั่งนึกดูก็ยังกลัวอยู่เพราะเสียงที่ได้ยินยังคงหลอนอยู่ในหู