เครื่องประดับ หลังจากที่ Van Cleef & Arpels เปิดร้านเรือธงอย่างเป็นทางการแล้ว ก็มาถึงแบรนด์ผู้หญิง ในอุตสาหกรรมเครื่องประดับเช่นกัน แบรนด์เครื่องประดับเหล่านี้ ซึ่งเดิมเน้นที่เลย์เอาต์ของร้านค้าออฟไลน์ ได้เห็นความสามารถทางดิจิทัล ส่งตรงไปยังลูกค้า ที่ตกลงมาทีละส่วน และพวกเขาได้ทุ่มเทให้กับผลิตภัณฑ์ใหม่ เปิดตัวสุดพิเศษ เพื่อเพลิดเพลินกับผู้ใช้ออนไลน์
นอกจากนี้ พวกเขายังเปิดตัวบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น การสลักข้อความแบบเอกสิทธิ์เฉพาะบุคคล และการลงนามคำสั่งลับ ซึ่งเป็นการเปิดทาง ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล เมื่อวันที่ 20 มีนาคมปีนี้ แวน คลีฟ แอนด์ อาร์เปล์ ตระกูลเครื่องประดับระดับไฮเอนด์ของฝรั่งเศส ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในปี 2548 แวน คลีฟ แอนด์ อาร์เปล์ เข้าสู่ตลาดแผ่นดินใหญ่อย่างเป็นทางการ
โดยเปิดร้านบูติกทั้งหมด 17 แห่ง 15 ปีต่อมา แวน คลีฟ แอนด์ อาร์เปล์ เปิดร้านเรือธงออนไลน์แห่งแรกนอกจากนี้ยังเปิดตัวบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น การแกะสลักแบบกำหนดเอง เปิดบริการนวัตกรรมดิจิทัล เช่น การทดสอบ AR และการแกะสลักแบบกำหนดเอง นี่เป็นก้าวสำคัญสำหรับแบรนด์อัญมณีสีน้ำเงิน ที่เน้นประสบการณ์ร้านค้าออฟไลน์ และการบริการในอดีต ด้วยไข่มุกของ
แวน คลีฟ แอนด์ อาร์เปล์ ที่ด้านหน้า เครื่องประดับแบรนด์อังกฤษ Graff และ TASAKI ของญี่ปุ่นก็มาถึงเช่นกัน Graff ซึ่งติดอันดับหนึ่งในสิบแบรนด์ เครื่องประดับชั้นนำของโลก ไม่ได้มีชื่อเสียงเท่า Cartier Bulgari Van Cleef & Arpels และแบรนด์ Blue Blood อื่นๆ มีเพชรของแอฟริกาใต้ สิทธิในการขุดและควบคุมตลาดโลก 60 เพชรสีเหลืองมากกว่า เปอร์เซ็นต์เป็นราชาแห่งเพชรอย่างแท้จริง
สุดพิเศษ ผลิตจำกัดเพียง 50 ชุด ทั่วโลก ยังอยู่ในช่วงก่อนระยะเวลาการขาย และผู้ใช้บางคน ได้วางคำสั่งซื้อไว้อย่างเงียบๆ โดยบังเอิญที่แบรนด์เครื่องประดับของ TASAKI ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องไข่มุก ได้ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคมปีนี้ด้วย เครื่องประดับของแบรนด์ในโอกาสต่างๆ หลายครั้ง ดึงดูดแฟนๆมากมายให้ชม เพื่อให้แบรนด์นี้ ออกจากวงการอีกครั้ง
ร้านเรือธงอย่างเป็นทางการของ TASAKI จะเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การบริการออนไลน์ และออฟไลน์แบบบูรณาการ เช่น การบริการลูกค้าพิเศษ การบำรุงรักษางาน บริการแกะสลัก การปรับขนาดฯลฯ ซึ่งดึงดูดผู้ใช้จำนวนมาก ให้มาเป็นแฟนของแบนเนอร์ อย่างเป็นทางการของแบรนด์
การเข้าสู่แบรนด์”เครื่องประดับ”โดยรวม ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้บริโภคในพื้นที่ ที่ร้านค้าไม่ครอบคลุม จากการศึกษาพบว่ามีเมืองกว่า 200 เมือง ที่มีศักยภาพการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยมหาศาล
ครอบคลุมผู้บริโภคในทุกเมืองในระดับต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ ของแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ เข้าถึงกลุ่มที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศได้ในที่เดียว
นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลของแพลตฟอร์ม เพื่อติดตั้งร้านเรือธงของแบรนด์ด้วย การแสดงร้านค้า 3 มิติ นิทรรศการออนไลน์ และฟังก์ชั่นอื่นๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ดิจิทัล ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ทำให้แบรนด์สามารถสื่อสาร กับผู้บริโภคได้โดยตรงมากขึ้น
การแพร่ระบาด ได้เร่งให้อุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือยทั้งหมด เปิดรับช่องทางออนไลน์ รายงานทางการตลาดชี้ให้เห็นว่า ตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยทั่วโลกจะหดตัว 23 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2020 แต่การบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือย ในแต่ละประเทศ จะเพิ่มขึ้น 48 เปอร์เซ็นต์ เป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป
แบรนด์หรูมาเปิดร้านบน Tmall และแบรนด์ดังอย่าง Cartier Gucci Prada Balenciaga Armani และ Saint Laurent ก็เข้ามาตั้งรกรากอย่างเป็นทางการ ปัจจุบันมีแบรนด์หรูมากกว่า 200 แบรนด์ เข้ามาตั้งรกราก และอัตราการเติบโตของยอดขายต่อปีเกิน 130 เปอร์เซ็นต์
บทความอื่นที่น่าสนใจ ➠ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มีวิธีการตรวจและป้องกันอย่างไรบ้าง